รู้ก่อนทำ ขั้นตอนทำ รากฟันเทียม แบบเจาะลึก
รู้ก่อนทำ รากฟันเทียม ไม่ได้วุ่นวายยุ่งยากอย่างที่คุณคิด ใครกำลังวางแผนจะลงทุนทำ รากฟันเทียม ให้ตัวเองอยู่ เชื่อว่าคุณอาจจะกำลังหาข้อมูล อ่านคอมเมนต์ต่าง ๆ จนกลายเป็นความลังเลในใจโดยเฉพาะเรื่องที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัด กลัวเจ็บ กลัวจะใช้เวลาพักฟื้นนาน อย่าปล่อยให้ความลังเลเหล่านี้มาทำให้คุณต้องกลัวจนต้องพับเก็บโครงการเปลี่ยนฟันซี่ใหม่นี้ไปซะ มารู้ก่อนทำจริงเกี่ยวกับขั้นตอนการทำรากฟันเทียมแบบเจาะลึกจากคุณหมอตัวเป็น ๆ ดูก่อนค่ะ แล้วคุณจะพบว่าในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ทำให้การรักษาง่ายขึ้น ลดความเจ็บปวด และสามารถฟื้นตัวได้ไวขึ้นกว่าเดิมไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
เพราะการทำรากเทียมเป็นการฝังอุปกรณ์ทดแทนรากฟันจริง จึงจำเป็นต้องมีหลายขั้นตอนเพื่อความปลอดภัย ความทนทานและสามารถใช้งานได้จริงเหมือนกับฟันธรรมชาติค่ะ
ขั้นตอนที่ 1 : ประเมินสภาพฟันจากทันตแพทย์
เริ่มแรกเลยคือการเข้าพบแพทย์เพื่อทำการประเมินสภาพฟัน สภาพเหงือกในบริเวณที่จะทำการปลูก รากฟันเทียม ลงไป ซึ่งคุณหมอเองจะต้องตรวจเช็กอย่างละเอียดตั้งแต่การทำแบบจำลองฟัน X-Ray เพื่อดูแนวขากรรไกรของคนไข้ว่าอยู่ในตำแหน่งที่สามารถทำรากฟันเทียมได้มั้ย ตรวจเช็กความแข็งแรงของมวลกระดูกว่าสามารถรองรับรากฟันเทียมได้หรือเปล่า สุขภาพเหงือกดีแค่ไหน หนาและแข็งแรงพอที่จะฟื้นตัวหลังจากการทำรากฟันเทียมหรือไม่
หากแนวขากรรไกรเตี้ยเกินไป หรือโพรงอากาศอยู่ใกล้กับขากรรไกรมากเกินไป คุณอาจจะต้องผ่าตัดยกโพรงอากาศขึ้น ซึ่งระหว่างการผ่าตัดทันตแพทย์จะทำการเสริมกระดูกเข้าไปในขากรรไกร ซึ่งหากต้องทำทันตแพทย์จะแจ้งคนไข้ให้ทราบ และอธิบายขั้นตอนการทำอย่างละเอียดก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ หากมวลกระดูกไม่แข็งแรงพอที่จะทำรากฟันเทียม คุณอาจจะต้องปลูกถ่ายกระดูกใหม่ เมื่อผ่านการประเมินสภาพฟันเหล่านี้ไปได้ก็จะเป็นการวางแผนการรักษาตามดุลพินิจของทันตแพทย์ที่ทำการรักษาค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 : ฝั่งรากเทียม
ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด ทันตแพทย์จะทำการกรีดเปิดเหงือกจนถึงกระดูกและเจาะรูสำหรับเตรียมฝังรากฟันเทียมในตำแหน่งที่วางแผนการรักษาไว้ ซึ่งวัสดุลงไปมักจะผลิตจากไทเทเนียมที่สามารถเข้ากับร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีความทนทาน ใช้งานได้นานเป็นสิบ ๆ ปี
ขั้นตอนที่ 3 : พักฟื้น รอกระดูกสมานเข้ากับรากฟันเทียม
ขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน เมื่อรากฟันเทียมถูกฝังลงในบริเวณกระดูก กระดูกขากรรไกรก็จะเริ่มมีกระบวนการสมานตัว ยึดติดรากฟันเทียมเข้ากับกระดูกเพื่อสร้างรากฐานที่ใกล้เคียงกับรากฟันจริงจากธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่คนไข้จะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 เดือน ในระหว่างนี้คุณอาจจะต้องพบทันตแพทย์เพื่อติดตามอาการบ้าง ความถี่ขึ้นอยู่กับแต่ละเคสค่ะ
ขั้นตอนที่ 4 : ใส่เดือย พิมพ์ปากเพื่อครอบฟัน
เมื่อกระดูกและรากเทียมที่ฝังไว้เข้าที่เข้าทางจนสามารถใช้งานได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการใส่เดือยเพื่อรองรับการครอบฟัน ใส่เครื่องมือช่วยสร้างร่องเหงือก แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้บางเคสอาจจะฝังรากฟันเทียมที่มีเดือยขึ้นมาเลย ทำให้ลดขั้นตอนการใส่เดือยลง ซึ่งในจุดนี้ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทันตแพทย์และคนไข้แต่ละเคสด้วย หลังจากใส่เดือยเสร็จก็จะทำการพิมพ์ปากส่งแลปเพื่อทำตัวครอบฟัน ใช้เวลา 5 – 7 วัน
ขั้นตอนที่ 5 : ครอบฟัน
ขั้นตอนสุดท้ายของการทำรากฟันเทียมคือการครอบฟัน หรือการใส่แกนครอบฟันตัวจริง ฟันที่ได้ใหม่จะมีสีและขนาดที่คล้ายกับฟันจริงซี่เดิม ทำให้สามารถกัดฟัน สบฟันได้ตามปกติ แถมยังสามารถเคี้ยวอาหารได้เป็นปกติเหมือนฟันธรรมชาติอีกด้วย
ถึงแม้ว่าการทำรากฟันเทียมอาจจะต้องใช้เวลาในการรักษา มีหลายขั้นตอนหากเทียบกับการทดแทนฟันประเภทอื่น ๆ ก็จริง แต่ความหลายขั้นตอนนี้จะเป็นแค่ช่วงระยะการรักษาเท่านั้น หากแลกกับความสะดวกสบายหลังจากนี้ถือว่าคุ้มค่ามากค่ะ เพราะนอกจากคุณจะได้ความมั่นใจที่เหมือนฟันจริงแล้ว ยังถือเป็นการคืนความสุขจากการทานอาหารโดยไม่ต้องกังวลว่าฟันปลอมจะหลุดมั้ย สามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างตามใจ แถมวัสดุที่ใช้ยังมีความทดทาน ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง 10 – 20 ปี หรือหากดูแลดี ๆ ฟันซี่ใหม่ซี่นี้อาจจะอยู่กับคุณไปได้ตลอดชีวิต
สามารถติดตามสาระความรู้ บทความเกี่ยวกับทันตกรรมเพิ่มเติมได้ทาง https://theorange-dentalclinic.in.th
